Smart Factory

ปัจจุบันคำว่า Smart Factory นั้นกำลังมาแรง ไม่ว่าจะอยู่ในวงการอุตสาหกรรมไหนก็ต้องล้วนแล้วแต่ได้ยินคำนี้ผ่านหูกันมาบ้าง ซึ่งต้องบอกเลยว่าด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ได้พัฒนามาจนถึงในยุคนี้ ทำให้ Smart Factory นั้นมีบทบาท รวมไปถึงประสิทธิภาพในการยกระดับวงการอุตสาหกรรมได้มากยิ่งขึ้น เรียกว่าเป็นยุคอุตสาหกรรม 4.0 นั่นเอง และ SCMA ก็ขอแนะนำให้ทุกคนนั้นได้รู้จักกับ Smart Factory ว่าคืออะไร มาร่วมหาคำตอบกันว่าคำนี้จะเกี่ยวข้องกับยุคอุตสาหกรรม 4.0 ยังไง ไปดูกันเลย

Smart Factory คืออะไร

Smart Factory

มาเริ่มกันที่อันดับแรกกันก่อนเลยกับการรู้จักความหมายของคำว่า Smart Factory ว่าคืออะไรกันแน่ โดย Smart Factory นั้นก็คึอ โรงงานอัจฉริยะที่มีการนำเอาเทคโนโลยีเครื่องจักร, ปัญญาประดิษฐ์(AI) และ IoT (Internet of Things) ทั้งสามอย่าเข้ามามีบทบาทในการบริหารจัดการภายในโรงงาน เพิ่มความสะดวกในการควบคุม สามารถเก็บข้อมูลและรายงานผลต่างๆ ได้อย่างเที่ยงตรง ก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานของโรงงาน

หลักการทำงานของ Smart Factory

สำหรับหลักการทำงานหลักๆ ของ Smart Factory นั้นก็จะประกอบไปด้วย 4 อย่างนี้

  1. Prediction คาดการณ์ ที่จะนำข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์และประเมินสำหรับการผลิต จากคำสั่งซื้อของลูกค้าต่างๆ ที่มีเข้ามาภายในโรงงาน
  2. Planning & Scheduling วางแผนและการกำหนดการทำงาน โดยจะกำหนดระยะเวลาในการทำงานหลังจากคาดการณ์ในการผลิตเสร็จแล้ว
  3. Analytic วิเคราะห์คิดคำนวณ ในส่วนนี้คือการวิเคราะห์ในกระบวนการผลิตว่าต้องใช้จำนวนคนเท่าไหร่ และเทคโนโลยีจำเป็นในการสร้างต้องมีอะไรบ้าง
  4. Execution ปฏิบัติงาน ซึ่งในขั้นตอนนี้สามารถดูความคืบหน้าและควบคุมได้อย่างใกล้ชิดไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

ข้อได้เปรียบของ Smart Factory 

Smart Factory ข้อได้เปรียบ

เมื่อรู้แล้วว่า Smart Factory นั้นคืออะไร และหากนำมาเปรียบเทียบกับโรงงานปกติทั่วแล้ว จะมีข้อแตกต่างหรือว่าข้อได้เปรียบอะไร ทำไมถึงควรหันมาพัฒนาตัวโรงงานให้กลายเป็น โรงงานอัจฉริยะกัน ไปดูกันได้เลย

จำนวนแรงงานลดลง แต่จำนวนการผลิตไม่ลดตาม

เพราะ Smart Factory นั้นจะเน้นไปที่เครื่องจักรและปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะทำงานรวมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การผลิตแม้จะลดจำนวนของคนลงไป แต่ก็ยังสามารถผลิตออกมาได้ในปริมาณเท่าเดิม หรืออาจมากขึ้น

สร้างกำไรในระยะยาว

การลงทุนเครื่องจักรนั้นแม้จะมีต้นทุนสูง แต่ก็สามารถสร้างกำไรในระยะยาวเช่นกัน เนื่องจากเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพจะทนทาน มีอัตราซ่อมบำรุงที่ต่ำ เครื่องหนึ่งสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน ทำให้ต้นทุนตอนซื้อมา ถูกทำให้คืนทุน รวมไปถึงการสร้างกำไรในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน

ลดเวลาที่ใช้ในการผลิตลง

เมื่อใช้งานเครื่องจักรในการผลิตนั้น ก็ไม่ต้องกังวลสำหรับเรื่องของเวลาอีกต่อไป เพราะร่างกายของคนเราน้นต้องการพักผ่อน แต่กลับกันแล้วเครื่องจักรสามารถทำงานได้มากกว่า ถึงจะมีช่วงเวลาที่ต้องพักเครื่องจักรบ้าง แต่หากเทียบเวลาโดยรวมแล้วก็ยังทำได้มากกว่าอยู่ดี

รวบรวมข้อมูลได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น

เรียกได้ว่านี่คือหนึ่งในจุดแข็งของ Smart Factory เลยก็ว่าได้ เพราะตัวระบบ AI นั้นสามารถรวบรวมข้อมูลในการทำงานได้อย่างเชิงลึก วิเคราะห์ปัญหาได้อย่างละเอียด รวมถึงยังนำข้อมูลไปวิเคราะห์ต่อยอดได้อีกด้วย

ลดอุบัติเหตุภายในการทำงาน

ระบบ Smart Factory สามารถทำการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และวางแผนการทำงานภายในโรงงานให้ออกมาเป็นรูปแบบอัตโนมัติ ช่วยทำให้ความผิดพลาดจนเกิดอุบัติเหตุในการทำงานนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ตรวจสอบการทำงานได้ทุกที่

เนื่องจากการผลิตจำเป็นต้องมีการตรวจสอบผลิตอยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานจะทำให้ได้ผลออกมาตามต้องการ ซึ่ง Smart Factory ที่มีการใช้งานเทคโนโลยี IoT ที่จะช่วยให้สามารถตรวจสอบการทำงานได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงตรวจสอบได้แม้อยู่ที่ไหนก็ตาม

Smart Factory การเตรียมตัว

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเปลี่ยนเป็น Smart Factory

ในการเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนโรงงานทั่วไปให้กลายมาเป็น Smart Factory เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นอุตสาหกรรม 4.0 อย่างเต็มตัวนั้นก็มีเรื่องให้ต้องพิจารณาอยู่ ซึ่งสิ่งที่ต้องนำมาพิจารณารวมไปถึงการตั้งเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนมาเป็น Smart Factory นั้นก็มีตามต่อไปนี้

ความจำเป็น

แน่นอนว่าอันดับแรกเลยก็คือความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนโรงงานทั่วไปให้กลายมาเป็น  Smart Factory ว่ามีความจำเป็นขนาดไหน รวมถึงอยากเปลี่ยนระบบแค่บางส่วน หรือว่าระบบทั้งหมด

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Smart Factory

แน่นอนว่าเมื่อตรวจสอบความจำเป็นของตัวโรงงานแล้ว ก็ต้องมาศึกษาเกี่ยวกับ Smart Factory ให้ถ่องแท้ ไม่ว่าจะเป็นระบบการทำงาน อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง หรือแม้แต่ต้นทุนที่ต้องใช้ทั้งหมด รวมไปถึงบริษัทที่มีความรู้ความสามารถในการติดตั้งระบบนี้ให้กับโรงงานของคุณ

ตรวจสอบศักยภาพของโรงงาน

สำหรับศักยภาพของโรงงานไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินทุน บุคลากร พื้นที่ทั้งหมด รวมไปถึงแผนผลิตที่ทางโรงงานนั้นมี เพื่อที่จะได้เป็นการมองภาพรวมก่อนที่จะทำการปรับโรงงานให้กลายเป็น Smart Factory เพื่อให้สามารถเตรียมต้นทุนต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน

อบรมบุคลากร

เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของบุคลากรที่จะต้องทำงานภายในโรงงานที่จะกลายเป็น Smart Factory ต้องมีการแจ้งข่าว และจัดทำอบรมเพื่อให้บุคลากรหรือพนักงานภายในโรงนั้นมีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวข้องกับระบบของ Smart Factory

ทดสอบระบบให้เข้าใจก่อนติดตั้ง

Smart Factory นั้นจำเป็นที่ต้องมีการทดสอบระบบ โดยกระทำในพื้นที่จำเพาะ เพื่อให้รู้ว่าระบบทั้งหมดนั้นสามารถใช้งานร่วมกับโรงงานของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้ทำการค้นหาจุดที่ต้องปรับปรุงหรือแก้ไข เพื่อให้เมื่อนำไปใช้งานจริงจะได้ไม่มีจุดบกพร่อง

ติดตั้งอุปกรณ์ให้เรียบร้อย

แน่นอนว่าเมื่อมีการทดสอบระบบแล้ว ก็ถึงเวลาการติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นในการสร้าง Smart Factory ขึ้นในโรงงาน และทำการทดสอบเพื่อดูว่ามีการทำงานเรียบร้อยดีไหม เมื่อเจอปัญหาจะได้แก้ไขก่อนนำไปใช้งานจริง และเมื่อผ่านขั้นตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ใช้งานจริงแล้ว

ใช้งานและติดตามผล

เมื่อนำมาใช้งานแล้วก็อย่าพึ่งวางใจ เพราะอะไรที่เป็นครั้งแรกนั้นมักจะเกิดปัญหาตามมาเสมอ เพราะฉะนั้นตลอดการใช้งานในช่วงต้น ก็ต้องคอยดูการทำงานของระบบและติดตามผลอย่างใกล้ชิด เมื่อพบเจอปัญหาก็ให้รีบติดต่อกับทีมงานที่มาติดตั้งทันที

Smart Factory อุตสาหกรรม 4.0

เพียงเท่านี้ก็สามารถยกระดับจากโรงงานทั่วไป ให้กลายเป็นโรงงานอัจฉริยะหรือ Smart Factory เพื่อก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งหากโรงงานไหนอยากจะขยับโรงงานให้กลายเป็น Smart Factory ก็สามารถติดต่อเข้ามาหา SCMA ได้เลย 

SCMA Company Limited เป็นผู้นำในการจำหน่ายและให้บริการเครื่องมือต่าง ๆ ในโรงงานอุตสาหกรรม เพรียบพร้อมไปด้วยทีมงานวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มุ่งสร้างทักษะและความรู้ในเรื่องของอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อการยกระดับการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมให้ก้าวหน้า พร้อมนำเสนอเทคโนโลยี IO-Link เซนเซอร์ และ ระบบออโตเมชั่น ที่จะทำให้โรงงานของคุณเป็น Smart Factory หรือโรงงานอัจฉริยะที่แท้จริง

 

ข้อมูลอ้างอิง : riverplus.com, mreport.co.th, proindsolutions.com, 1stcraft.com, dia.co.th, tot.co.th