Electromagnetic Flow Meter (EMF) คืออะไร?
เมื่อพูดถึงการวัดอัตราการไหลของของเหลวในระบบท่อ หรือ ท่อส่งน้ำ ก็ต้องกล่าวถึงเครื่องมือสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือ EMF หรือชื่อเต็มว่า Electromagnetic Flow Meter เครื่องวัดการไหลด้วยหลักการของไฟฟ้า ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อการใช้งานในระบบท่อที่มีของเหลวที่เป็นสารตัวนำไฟฟ้า เช่น น้ำ น้ำเสีย หรือน้ำมัน โดยใช้หลักการของการสร้างกระแสไฟฟ้าในน้ำ, สารตัวนำไฟฟ้าเมื่อมีการไหลผ่านท่อ
ประโยชน์การใช้งาน Electromagnetic Flow Meter
- วัดอัตราการไหลของน้ำและของเหลวอื่น ๆ ที่เป็นสารตัวนำไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำ ทำให้เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการควบคุมกระบวนการผลิต
- ไม่มีส่วนที่สัมผัสกับน้ำหรือของเหลว ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดความสกปรกหรือการสึกหรอ
- โครงสร้างที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมและสารเคมี ใช้งานได้ยาวนาน
ประเภทของ Electromagnetic Flow Meter
ประเภทของ Flow meter ชนิดนี้ทั่วไปสามารถแบ่งประเภทจะแบ่งได้ 2 ประเภท ดังนี้
- Integration Type ตัวควบคุมและจอแสดงผลประกอบติดอยู่กับส่วนที่วัดของไหล หากต้องการอ่านค่าจำเป็นต้องไปยังจุดที่ติดตั้งมาตรวัด
- Separated Type ตัวควบคุมและจอแสดงผลอยู่แยกของส่วนที่วัดของไหลหรือเรียกว่าประเภท Remote สามารถอ่านค่าจากระยะไกลได้ โดยการเดินสายไฟไปยังจุดที่ต้องการ
หลักการทำงานของ Electromagnetic Flow Meter
สำหรับเรื่องหลักการทำงานของ Electromagnetic Flow Meter หรือเจ้า มิเตอร์วัดการไหลแบบสนามแม่เหล็กนี้ ก็จะทำงานโดยการส่งกระแสไฟฟ้าไปยังสารตัวนำไฟฟ้าภายในท่อ ทำให้เกิดสนามแม่เหล็กในท่อ โดยหากเป็นสถานการณ์ทั่วไป น้ำจะไหลผ่านท่อ กระแสไฟฟ้าที่ส่งเข้าไปในน้ำจะสร้างความดันไฟฟ้า ที่มีสัมพันธ์กับความเร็วของการไหล ผ่านกลไฟฟ้าหรือเซนเซอร์ที่ติดตั้งอยู่ จากนั้นตัวเครื่องจะใช้ค่าดังกล่าว คำนวณเพื่อหาปริมาณการไหลของของเหลว แต่จะสามารถตรวจจับอัตราการไหลของของไหลที่เป็นสื่อกระแสไฟฟ้าเท่านั้น ซึ่งจำเป็นต้องมีค่าการนำไฟฟ้าขั้นต่ำที่ 5-20 µS/cm
หลักการพื้นฐานของ Electromagnetic Flow Meter มาจาก “กฎการเหนี่ยวนำของฟาราเดย์” ที่กล่าวเอาไว้ว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของฟลักซ์แม่เหล็ก จะเกิดแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนำในขดลวด จากกฎดังกล่าวเราสามารถหาความสัมพันธ์ในการวัดอัตราการไหลได้จากสมการดังต่อไปนี้
E = k x B x D x V
E = แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวน้า
k = ค่าคงที่
B = ความหนาแน่นของเส้นแรงแม่เหล็ก
D = ระยะห่างระหว่างอิเล็คโทรด (ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางท่อ)
V = ความเร็วของการไหล
Electromagnetic Flow Meter นิยมใช้ในอุตสาหกรรมใดบ้าง?
- โรงบำบัดน้ำเสีย (Effluent Treatment Plant)
- โครงการบำบัดน้ำเสีย (Sewage Treatment Plant Water Supply Scheme)
- อุตสาหกรรมเหล็กและอลูมิเนียม (Steel & Aluminum Industries)
- อุตสาหกรรมอาหารและยา (Food & Drug Industries)
- อุตสาหกรรมเคมีและปุ๋ย (Chemical & Fertilizer Industries)
- อุตสาหกรรมนม (Dairy Industries)
- อุตสาหกรรมน้ำตาล (Sugar Industries)
- อุตสาหกรรมแปรรูปสิ่งทอ (Textile Processing Industries)
การติดตั้ง Electromagnetic Flow Meter
ตัวมิเตอร์วัดการไหลแบบสนามแม่เหล็กจะต้องเต็มไปด้วยของเหลวเสมอ ดังนั้นตำแหน่งที่ต้องการสำหรับ mag flow จึงอยู่ในแนวเส้นไหลขึ้นในแนวตั้ง การติดตั้งเป็นเส้นแนวนอนสามารถทำได้ หากส่วนท่ออยู่ที่จุดต่ำและหาก Electrode ไม่ได้อยู่ที่ด้านบนของท่อ เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศสัมผัสกับ Electrode หากติดตั้ง mag flow ในท่อแนวนอนที่มีความยาวเกิน 30 ฟุต ควรรองรับท่อทั้งสองด้านของมิเตอร์
อีกทั้งยังต้องต่อสายดินด้วยไฟฟ้ากับของเหลวในกระบวนการ นี่เป็นเพราะ mag flow เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสำหรับกระแสจรจัดที่เดินทางลงท่อหรือผ่านของเหลวในกระบวนการ โดยการต่อสายดินที่ปลายทั้งสองด้านเข้ากับของเหลวในกระบวนการทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรสำหรับกระแสหลงทางโดยกำหนดเส้นทางรอบท่อไหลแทนที่จะผ่าน หากระบบไม่ได้ต่อสายดินอย่างถูกต้องกระแสเหล่านี้สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเป็นศูนย์ในเอาต์พุตของ Electromagnetic Flow Meter ได้
ขั้นตอนการติดตั้ง Electromagnetic Flow Meter
- ควรเลือกสถานที่ติดตั้งให้มีพื้นที่เพียงพอและเหมาะสมสำหรับการติดตั้ง
- ตรวจสอบและเตรียมพื้นที่สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์
- ทำการทดสอบ Flow Meter เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของการทำงาน และปรับแต่งตามค่าที่ต้องการ
- บำรุงรักษา Flow Meter เพื่อให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิต เพื่อให้การติดตั้งเสร็จสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพในการทำงาน
ข้อดีของ Electromagnetic Flow Meter
- มีการวัดความเป็นเชิงเส้น เนื่องจากความเร็วในการไหลของตัวกลาง(V) มีการแปรผันตรงกันกับแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนำที่เกิดขึ้น(E)
- มีความแม่นยําสูงเมื่อเทียบกับเครื่องวัดการไหลอื่น ๆ อยู่ที่ประมาณ ±0.5% ของอัตราการไหลหรือดีกว่าเมื่อเทียบกับความไม่ถูกต้องของ ±1 ถึง 2% ของอัตราที่มาพร้อมกับเครื่องวัดอัลตราโซนิก
- ไม่มีสิ่งกีดขวางหรือส่วนที่จะยื่นเข้าไปวัดภายในท่อที่ตัวกลางไหลผ่าน ซึ่งจะทำให้แรงดันภายในท่อไม่มีการลดลง อีกทั้งยังสามารถใช้กับของเหลวที่มีเศษโลหะหรือสิ่งสกปรก ตะกอนต่าง ๆ เจือปนอยู่เป็นจำนวนมากโดยไม่ต้องกังวลว่าตะกอนสิ่งสกปรกทั้งหลายจะทำให้มิเตอร์อุดตัน หรือมีการกระแทกขีดข่วนจนทำให้เซนเซอร์ตรวจวัดเสียหาย
- ไม่มีอุปกรณ์ส่วนเคลื่อนไหวในการตรวจวัด ทำให้การบำรุงรักษาง่ายดาย
- วัดความเร็วในการไหลเป็นหลัก ทำให้ค่าความหนืด ความหนาแน่น คุณสมบัติของตัวกลางและอุณหภูมิตัวกลางไม่มีผลในการตรวจวัด ซึ่งความเร็วในการไหลของตัวกลางจะขึ้นอยู่กับปริมาณการไหลและขนาดของท่อเป็นหลัก
- สามารถวัดอัตราการไหลได้ทั้งสองทิศทางของท่อ ซึ่งจะได้ค่าความแม่นยำที่เท่ากันทั้งสองทิศทาง
- ใช้พลังงานต่ำ โดยทั่วไปจะกินพลังงานอยู่ที่ 15-20 W
- ไม่ต้องสัมผัสกับสื่อที่ไหลผ่าน ทำให้สามารถวัดได้ในสภาวะที่มีสื่อที่เปลี่ยนแปลงง่ายหรือมีความเปราะบาง เช่น น้ำ น้ำเสีย หรือสารเคมี และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์อีกด้วย
- Electromagnetic Flow Meter มีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีหรือสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดหรือเค็ม ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของเครื่องมือให้นานมากยิ่งขึ้น
ข้อควรระวังในการใช้ Electromagnetic Flow Meter
- ของเหลวตัวกลางที่ต้องการวัดจะต้องมีค่าความนำไฟฟ้าไม่น้อยกว่ากำหนด ซึ่งจะต้องตรวจสอบของเหลวแต่ละชนิดตามคุณสมบัติหรือนำเครื่องมือวัดค่าความนำไฟฟ้าไปวัดกับของเหลวตัวกลางเพื่อตรวจสอบ ซึ่งมิเตอร์วัดอัตราการไหลชนิดนี้ไม่เหมาะกับตัวกลางที่มีส่วนผสมประเภทไฮโดรคาร์บอน เช่น น้ำมันเบนซิน , น้ำมัน ปิโตรเคมีต่าง ๆ หรือแก๊ซต่าง ๆ อีกทั้งยังไม่สามารถใช้ได้กับ น้ำกลั่น , น้ำ DI (Deionized water)
- ระบบกราวด์ มิเตอร์วัดอัตราการไหลชนิดนี้มีความไวต่อสัญญาณไฟฟ้ารบกวน หรือสนามแม่เหล็กรบกวนควรต่อสายระบบกราด์และแผ่นกราวด์ริง(Ground Ring)ให้ถูกต้องเพื่อลดสัญญาณรบกวนและความแม่นยำในการวัด
Electromagnetic Flow Meter แบรนด์ที่นิยมในท้องตลาดทั่วไป
- Endress+Hauser เป็นบริษัทชั้นนำในวงการการวัดและควบคุมกระบวนการ
- Siemens เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มีเครื่องวัดการไหลแบบสนามแม่เหล็กที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้
- Supmea บริษัทจากประเทศจีนที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิต Electromagnetic Flow Meter และอุปกรณ์วัดการไหลอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม ได้รับการยอมรับจากลูกค้าที่หลากหลาย เนื่องจากคุณภาพของผลิตภัณฑ์และราคาที่เข้าถึงง่าย รวมถึงการให้บริการหลังการขายที่ดี มีสต็อกสินค้าพร้อมส่งเสมอ
- ABB เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในการผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ไฟฟ้า มี Electromagnetic flow meter ที่มีความล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพสูง
- Yokogawa บริษัทญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในวงการควบคุมกระบวนการและวัดการไหล มี Electromagnetic flow meter ที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
- Krohne เป็นบริษัทที่มีสินค้าที่มีคุณภาพสูงในด้านการวัดและควบคุมกระบวนการ มี Electromagnetic flow meter ที่ใช้งานได้อย่างเชื่อถือ
- Emerson บริษัทที่มีชื่อเสียงในการผลิตอุปกรณ์ควบคุมและวัดการไหล มี Electromagnetic flow meter ที่มีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูง
โดยการเลือกใช้ Electromagnetic Flow Meter จากแบรนด์ต่าง ๆ นั้นก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ความต้องการและการใช้งานของลูกค้า แต่ทุกแบรนด์ที่กล่าวมาก็ล้วนเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในวงการวัดการไหล และสำหรับใครที่อยากได้ Electromagnetic Flow Meter คุณภาพดีเพื่อไปติดตั้งกับอุตสาหกรรมของตนเอง ทาง SCMA ก็มีตัว Electromagnetic Flow Meter จากแบรนด์ Supmea มาแนะนำ
Electromagnetic Flow Meter จาก SCMA
SUPMEA FMC240
SUPMEA SUP-LDG
SUPMEA SUP-LDG Remote type
Login and Registration Form